Choices: making informed choices

Well-informed treatment choices require judgements about relevance and importance. The results of specific fair comparisons may not be relevant to you.

Browse by Key Concept

Back to Learning Resources home

Filter these resources:

Clear Filters

Know Your Chances

This book has been shown in two randomized trials to improve peoples' understanding of risk in the context of health care choices.

| 0 Comments | Evaluated

Animal Studies

‘Ask for Evidence’ information about the relevance and limitations of animal studies for promoting human health.

| 0 Comments

Sunn Skepsis

Denne portalen er ment å gi deg som pasient råd om kvalitetskriterier for helseinformasjon og tilgang til forskningsbasert informasjon.

| 0 Comments

Balancing Benefits and harms

A blog explaining what is meant by ‘benefits’ and ‘harms’ in the context of healthcare interventions, and the importance of balancing them.

| 0 Comments
Book cover

Testing Treatments

Testing Treatments is a book to help the public understand why fair tests of treatments are needed, what they are, and how to use them.

| 0 Comments

Composite Outcomes

Fair comparisons of treatments should measure important outcomes and avoid dependence on surrogate outcome measures.

| 0 Comments

Biomarkers unlimited

Fair comparisons of treatments should measure important outcomes and avoid dependence on surrogate outcome measures.

| 0 Comments

Does it work?

People with vested interests may use misleading statistics to support claims about the efects of new treatments.

| 0 Comments
Book cover

การให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาการดูแลสุขภาพ

“การที่กลุ่มพิทักษ์สิทธิ์ผู้ป่วย ผู้ขายวิธีการรักษา และผู้สั่งใช้วิธีนั้นมีผลประโยชน์ร่วมกัน ทำให้เกิดกลุ่มอิทธิพล ซึ่งผลักดันผู้กำหนดนโยบายให้ตัดสินใจเหมือนเดิมแทบทุกครั้ง คือให้เพิ่มการตรวจร่างกาย การทำหัตถการ เตียงในโรงพยาบาล และการให้ยามากขึ้น… ในฐานะนักข่าวที่คลุกคลีในสาขานี้มากว่า 10 ปี ผมรู้สึกว่าการอภิปรายส่วนใหญ่ยังขาดผู้แทนที่คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมอย่างแท้จริง กลุ่มพิทักษ์สิทธิ์ผู้ป่วยได้รับเงินสนับสนุน จึงพร้อมจะเชิดชูวิธีการรักษา หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยไม่ค่อยสนใจจะวิพากษ์ในที่สาธารณะเรื่องประสิทธิผลอันน้อยนิด    ต้นทุนสูงลิ่วและอันตรายร้ายแรง นักการเมืองก็คล้ายกับนักข่าวจำนวนมากตรงที่เกรงแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิจนเกินพอดี รวมถึงเกรงนักพิทักษ์สิทธิ์ผู้ป่วยหัวแข็ง […]

| 0 Comments
Book cover

ประชาชนทั่วไปช่วยคิดทบทวนเรื่องโรคเอดส์

“ปัญหาเรื่องการเสื่อมศรัทธาในผู้เชี่ยวชาญ[1] ในเวทีเรื่องโรคเอดส์นั้น โยงใยกับหลายฝ่ายและมีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมหาศาล การที่ประชาชนเข้าร่วมอภิปรายและประเมินคำกล่าวอ้างทางวิทยาศาสตร์ ช่วยสร้างองค์ความรู้เรื่องโรคเอดส์ในปัจจุบัน จนยากจะตัดสินว่าใครคือ ‘ประชาชนทั่วไป’ ใครคือ ‘ผู้เชี่ยวชาญ’ กันแน่ ต้องเดิมพันกันทุกอึดใจว่าข้อมูลที่กล่าวอ้าง หรือบุคคลนั้นๆ เชื่อถือได้หรือไม่ แต่อันที่จริง มันเป็นการเดิมพันเรื่องกลไกในการประเมินความน่าเชื่อถือของคำกล่าวอ้างทางวิทยาศาสตร์ว่า ควรตัดสินอย่างไร และใครมีสิทธิ์ตัดสิน (ดังที่การศึกษานี้แสดง) การอภิปรายด้านวิทยาศาสตร์ก็คือการอภิปรายเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ไปพร้อมกัน ว่าควรทำอย่างไร […]

| 0 Comments
Book cover

ความร่วมมือที่สำคัญ

“งานวิจัยที่มีผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางในระบบบริการสุขภาพแห่งชาติต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ป่วยและประชาชนจึงจะสำเร็จ “ต่อให้งานวิจัยซับซ้อน หรือนักวิจัยเก่งกาจเพียงใด ความรู้จากประสบการณ์ของผู้ป่วยและประชาชนก็ยังเปิดมุมมองใหม่และเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง คำแนะนำจากผู้ป่วยและประชาชนในช่วงที่ออกแบบดำเนินการ และประเมินผลของงานวิจัย ช่วยให้การศึกษามีประสิทธิผลยิ่งขึ้น เชื่อถือได้ยิ่งขึ้น และมักคุ้มค่ายิ่งขึ้นด้วย” Professor Dame Sally Davies. Foreword to Staley K. Exploring impact: public […]

| 0 Comments
Book cover

ทางเลือกของผู้ป่วย : ดาวิดผู้ฆ่ายักษ์โกไลแอท

“ใครเป็นผู้ที่มองขาดว่าโจทย์วิจัยนั้นๆ สอดคล้องกับความจำเป็นของผู้ป่วยที่เป็นทุกข์และแตกต่างกัน เหตุใดโจทย์วิจัยจึงไม่ตรงประเด็น ขณะนี้ผู้ตั้งโจทย์คือใครและควรเป็นใคร ใครจะเป็นผู้ควบคุมการจัดลำดับความสำคัญ ผู้ป่วยรู้ดีที่สุดว่าประเด็นด้านสุขภาพประเด็นใดตรงใจตน และเป็นประโยชน์ที่สุดต่อความสบายกายใจ การดูแล และคุณภาพชีวิต รวมถึงอายุขัยของตน ผู้ป่วยคือ ดาวิดมนุษย์ผู้ต้องเตรียมอาวุธเพื่อโค่นยักษ์ใหญ่โกไลแอท ซึ่งก็คือ บริษัทยาที่ต้องการหลักฐานเพื่อขายสินค้าหากำไร และนักวิจัย ซึ่งมีความอยากรู้อยากเห็น ความจำเป็นที่ต้องหาเงินทุนวิจัย ชื่อเสียง และความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เป็นแรงผลักดัน […]

| 0 Comments
Book cover

ผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินแทบไม่ได้รับประโยชน์จากงานวิจัย

“มีการทดลองไม่กี่เรื่องที่เปรียบเทียบทางเลือกต่างๆ หรือการดูแลผู้ป่วยในระยะยาว การศึกษาต่างๆ ทำในระยะสั้นจนไม่น่าเชื่อถือ เมื่อคำนึงถึงว่าโรคนั้นมีแนวโน้มจะเรื้อรังแทบตลอดชีวิต ดูเหมือนสิ่งที่รู้ชัดมีเพียงว่าวิธีการรักษาที่ใช้นั้นดีกว่าไม่ทำอะไรเลย ที่สำคัญนักวิจัยละเลยประสบการณ์ มุมมอง ความต้องการ และ ความพึงพอใจของผู้ป่วย” อาร์ จ็อบลิง ประธานสมาคมโรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis Association) Jobling R. Therapeutic research […]

| 0 Comments
Book cover

ใครเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะศึกษาอะไร

เห็นชัดว่าสถานการณ์ดังกล่าวไม่เข้าที แต่เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ เหตุผลหนึ่งคือประเด็นวิจัยมักถูกบิดเบือนโดยปัจจัยภายนอก [22] เช่น อุตสาหกรรมยาทำการวิจัยเพื่อสนองเป้าหมายหลัก คือเพื่อให้ลุล่วงตามภาระหน้าที่ในการทำกำไรที่มีต่อผู้ถือหุ้น ส่วนความรับผิดชอบที่มีต่อผู้ป่วยและแพทย์สำคัญรองลงมา ธุรกิจถูกชักจูงด้วยตลาดขนาดใหญ่ เช่น หญิงที่สงสัยว่าควรใช้วิธีการรักษาด้วยฮอร์โมนทดแทนหรือไม่ หรือผู้ป่วยที่ซึมเศร้า วิตก กังวล หดหู่ หรือเจ็บปวด ทว่าในช่วงทศวรรษหลังๆ แนวทางแบบเล็งผลทางการค้านี้แทบไม่ได้ทำให้เกิดวิธีการรักษาใหม่ที่สำคัญ แม้แต่ในโรค “ยอดนิยม” […]

| 2 Comments
Book cover

โจทย์ที่สำคัญต่อผู้ป่วย

นักวิจัยในบริสตอล สหราชอาณาจักร ตัดสินใจตั้งคำถามสำคัญว่า “งานวิจัยเรื่องโรคข้อเข่าเสื่อมตอบโจทย์ที่สำคัญต่อผู้ป่วยและแพทย์หรือไม่อย่างไร” [17] พวกเขาเริ่มจากจัดกลุ่มสนทนา 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้ป่วยอายุรแพทย์โรคข้อนักกายภาพบำบัด และแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป กลุ่มคนเหล่านี้เห็นตรงกันว่าไม่อยากให้ทำการทดลองที่สนับสนุนโดยบริษัทยา ซึ่งเปรียบเทียบยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (กลุ่มยาที่มีไอบูโพรเฟน เป็นต้น) กับยาหลอกอีก ผู้ป่วยเห็นว่าแทนที่จะศึกษาเรื่องยา น่าจะมีการประเมินการทำกายภาพบำบัดและการผ่าตัดอย่างมีคุณภาพ รวมถึงประเมินมาตรการให้ความรู้และรับมือกับโรค ซึ่งอาจช่วยให้ผู้ป่วยจัดการกับอาการเรื้องรังที่มักก่อความเจ็บปวดและอาจพิการนี้ได้เป็นผลดียิ่งขึ้น […]

| 0 Comments
Book cover

โรคหลอดเลือดสมอง

อีกตัวอย่างของงานวิจัยที่ไม่จำเป็น ซึ่งเกิดเพราะไม่มีการรวบรวมและวิเคราะห์ผลจากการศึกษาก่อนๆ เช่นกัน เป็นเรื่องการรักษาโรคหลอดเลือดสมองด้วยยาชื่อนิโมดิปีน (nimodipine ยาในกลุ่มยับยั้งตัว รับแคลเซียม [calcium antagonist]) หากจำกัดบริเวณที่สมองเสียหายได้ในผู้ป่วยที่มีอาการโรคหลอดเลือดสมอง โอกาสเกิดความพิการก็น่าจะลดลง หลังจากการทดลองใช้นิโมดิปีนในสัตว์ให้ผลที่ดูเข้าที ก็เริ่มมีการทดลองยาดังกล่าวเพื่อการนี้ในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองในทศวรรษ 1980 การทดลองซึ่งตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1988 พบผลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยในกลุ่มนี้ แต่ผลจากการทดลองอีกจำนวนมากเรื่องนิโมดิปีนและยาชนิดอื่นในกลุ่มเดียวกันกลับขัดแย้งกัน เมื่อมีการทบทวนหลักฐานจากการทดลองในคนทั้งหมดอย่างเป็นระบบในผู้ป่วยรวมเกือบ […]

| 2 Comments
Book cover

การให้ยาแก้ปวดทางไขสันหลัง (Epidural analgesia) ในหญิงใกล้คลอด

การทดลองเรื่องแรกๆ เกี่ยวกับการให้ยาแก้ปวดทางไขสันหลังเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดระหว่างคลอด เป็นตัวอย่างที่ไม่ควรเอาอย่าง แต่แสดงให้เห็นความสำคัญของการประเมินผลการรักษาที่สำคัญต่อผู้ป่วย ในทศวรรษ 1990 นักวิจัยทบทวนการทดลองแบบมีกลุ่มควบคุมที่เปรียบเทียบการให้ยาแก้ปวดทางไขสันหลังกับการให้ยาด้วยวิธีอื่น โดยคะเนว่ามีหญิงที่เข้าร่วมในการเปรียบเทียบที่ไม่ลำเอียงระหว่างวิธีนี้กับวิธีอื่นไม่ถึง 600 ราย ทั้งที่ในช่วง 20 ปีก่อนหน้านั้นมีหญิงหลายล้านรายได้รับยาแก้ปวดทางไขสันหลัง นักวิจัยพบการเปรียบเทียบ 9 เรื่อง ซึ่งนำมาวิเคราะห์ได้อย่างมั่นใจ พบว่าการเปรียบเทียบส่วนใหญ่วัดผลด้วยระดับฮอร์โมนและสารอื่นๆ ซึ่งเชื่อว่าบ่งชี้ถึงความเครียดขณะคลอด มีบ้างที่สนใจผลต่อทารก […]

| 0 Comments
Book cover

ระบบกำกับงานวิจัยควรทำอะไร

“ถ้านักจริยธรรมและคนอื่นๆ อยากหาประเด็นวิจารณ์การทดลองในคน ก็ควรวิจารณ์งานที่ผิดหลักวิทยาศาสตร์ พร่ำเพรื่อ และที่สำคัญที่สุดคือ การคัดคนออกโดยไม่สมควร รวมถึงการใช้ทรัพยากรโดยไร้เหตุผล ข้อวิจารณ์ในปัจจุบันมีช่องโหว่ เนื่องจากไม่คำนึงว่าการทดลองเป็นไปเพื่อให้มั่นใจว่าวิธีการรักษาที่ใช้ปลอดภัยและได้ผลดีกว่าทางอื่น จริยธรรมไม่มีทางลัดเช่นเดียวกับการทดลอง” Ashcroft R. Giving medicine a fair trial. BMJ 2000;320:1686.

| 0 Comments
Book cover

การใช้สามัญสำนึกในการขอความยินยอมหลังให้ข้อมูลในแนวทางเวชปฏิบัติที่ดี

“การขอความยินยอมยังไม่เคยถูกอภิปรายในด้านความเข้าใจของผู้ป่วยที่แท้จริง ข้อมูลที่ผู้ป่วยอยากรู้คืออะไร และวิธีรับมือเมื่อผู้ป่วยอยากรู้แต่น้อย ไม่ค่อยมีการศึกษาด้านการประเมินความเข้าใจของผู้ป่วยต่อข้อมูลที่ได้รับ แพทย์มักไม่แน่ใจว่าผู้ป่วยและญาติเข้าใจข้อมูลนั้นๆ ถูกต้องเพียงใด ทั้งนี้ความเข้าใจขึ้นอยู่กับผู้ให้ข้อมูล วิธีอธิบาย และเวลา หรือสภาพแวดล้อมที่จำเป็นต่อการพิจารณาข้อมูล การที่แพทย์ตัดสินใจแทนผู้ป่วยเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ในเวชปฏิบัติ เวชปฏิบัติที่ดีต้องใช้วิธีตามสามัญสำนึก โดยอธิบายสิ่งต่างๆ ให้กระจ่าง ปรับสิ่งที่อธิบายให้เหมาะกับความต้องการของผู้ป่วย และตรวจสอบว่าผู้ป่วยเข้าใจหรือไม่” Gill R. How to […]

| 0 Comments
Book cover

ย้อนคิดเรื่องการขอความยินยอมหลังให้ข้อมูล

“(มีผู้ที่) เริ่มแคลงใจว่าการขอความยินยอมหลังให้ข้อมูลอาจ ไม่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานด้านชีวการแพทย์ที่ดี และ…การฝืนให้มันเป็นสิ่งจำเป็นก็เสียแรงเปล่า ผู้เขียนหวังว่าข้อกำหนดเป็นกองพะเนินเรื่องการขอความยินยอมหลังให้ข้อมูลที่เกิดขึ้นตลอดช่วง 50 ปีที่ผ่านมาจะถูกปฏิรูปและลดลง โดยใช้เวลาน้อยกว่าตอนสร้าง” Manson NC, O’Neill O. Rethinking informed consent in bioethics. Cambridge: Cambridge University […]

| 0 Comments
Book cover

ระบบกำกับงานวิจัยยังขาดอะไรบ้าง

แม้ระบบกำกับงานวิจัยจะบังคับให้นักวิจัยทำตามข้อกำหนดเข้มงวดก่อนเริ่มการศึกษา แต่เห็นชัดว่าระบบนี้ยังขาดและบกพร่องหลายด้าน หลายระบบไม่ตรวจสอบจนมั่นใจได้ว่าการศึกษาที่วางแผนจะทำนั้นจำเป็น เช่น อาจไม่กำหนดให้นักวิจัยแสดงว่าได้ทบทวนหลักฐานทั้งหมดที่มีอย่างถี่ถ้วนแล้ว ก่อนจะเริ่มทำการศึกษาใหม่ (ดูบทที่ 8 ว่าเหตุใดการทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบจึงสำคัญยิ่ง) นอกจากนี้ มาตรการกำกับงานวิจัยส่วนใหญ่ใช้ในช่วงเริ่มต้นวิจัยโดยเน้นการสอดส่องการเชิญชวนผู้เข้าร่วมการศึกษา แต่น่าแปลกใจที่ไม่ค่อยมีมาตรการติดตามระหว่างดำเนินการศึกษา และรับประกันว่านักวิจัยจะตีพิมพ์รายงานทันทีเมื่อการศึกษาสิ้นสุด (หรือกระทั่งตีพิมพ์หรือไม่) เพื่ออธิบายว่าผลการศึกษานั้นช่วยลดความไม่แน่นอนลงอย่างไร ผู้ที่ถูกเชิญชวนให้เข้าร่วมงานวิจัยเรื่องผลของวิธีการรักษาต้องวางใจได้ว่างานนั้นเป็นที่ต้องการ และความช่วยเหลือของตนจะเป็นประโยชน์ระบบกำกับงานวิจัยที่ดี ซึ่งมุ่งไขประเด็นที่ผู้ป่วยเห็นว่าสำคัญ ปัจจุบันมีผู้ตระหนักเพิ่มขึ้นว่าการตรวจสอบวิธีการรักษาเกี่ยวข้องกับทุกคน หากผู้ป่วยและประชาชนคว้าโอกาสที่มีผู้หยิบยื่นให้ในทุกวันนี้ […]

| 2 Comments
Book cover

ข้อมูลและการให้ความยินยอม

ข้อกำหนดด้านการให้ข้อมูลและความยินยอมเข้าร่วมการศึกษาเป็นมาตรการหนึ่งที่ขัดขวางมากกว่าจะสนับสนุนงานวิจัยที่ทำเพื่อลดความไม่แน่นอนเรื่องวิธีการรักษา สิ่งสำคัญคือ ต้องใส่ใจประโยชน์ของทุกคนที่รับการรักษาอยู่ในขณะนั้น ไม่ใช่แค่คนไม่กี่คนที่เข้าร่วมการทดลอง จึงจะถูก จริยธรรม [2] ดังนั้น มาตรฐานในการขอความยินยอมหลังให้ข้อมูล (informed consent) เรื่องการรักษาจึงควรเหมือนกัน ไม่ว่าผู้ป่วยรายนั้นรับการรักษาโดยเข้าร่วมการประเมินอย่างเป็นกิจจะลักษณะหรือไม่ ผู้ป่วยควรได้รับข้อมูลมากจนพอใจในเวลาที่ต้องใช้ เพื่อให้ตัดสินใจได้ตรงกับสิ่งที่ตนเห็นว่าสำคัญและต้องการ เมื่อให้ หรือสั่งใช้วิธีการรักษาในเวชปฏิบัติในชีวิตประจำวัน เป็นที่รู้กันว่าผู้ป่วยแต่ละรายมีความต้องการกับความจำเป็นที่แตกต่างกันและอาจเปลี่ยนไปตามกาลเวลา อีกทั้งผู้ป่วยยังอาจต่างกันในด้านปริมาณและประเภทของข้อมูลที่ต้องการ ความสามารถใคร่ครวญข้อมูลทั้งหมดในเวลา […]

| 0 Comments
Book cover

“มีนัยสำคัญทางสถิติ” หมายความว่าอย่างไร

“อันที่จริงการมีนัยสำคัญทางสถิติเป็นแนวคิดที่ยุ่งยาก มันบอกเราได้ว่าความแตกต่างเกิดจากความบังเอิญหรือไม่ เช่น ระหว่างยาจริงกับยาหลอก หรือระหว่างอายุคาดเฉลยของคน 2 กลุ่ม…โดยแปล ว่าความแตกต่างเท่าที่สังเกตพบไม่น่าจะเกิดเพียงเพราะบังเอิญ นักสถิติใช้ระดับมาตรฐานของการที่ ‘ไม่น่าจะบังเอิญ’ โดยทั่วไปใช้นัยสำคัญที่ร้อยละ 5 (อาจเขียนได้ว่า p = 0.05) ในกรณีนี้จะถือว่าความแตกต่างนั้นๆ ‘มีนัยสำคัญ’ เมื่อมีโอกาสน้อยกว่า 1 […]

| 0 Comments
Book cover

วิธีการรักษา “แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ” แปลว่าอะไร

คำถามนี้ตอบยาก เพราะ “ความแตกต่างที่มีนัยสำคัญ” อาจแปลได้หลายอย่าง อย่างแรก คือ ความแตกต่างที่สำคัญต่อผู้ป่วยจริง ทว่าเมื่อผู้เขียนรายงานวิจัยกล่าวว่าวิธีการรักษา “แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ” พวกเขามักหมายถึง “ความแตกต่างทางสถิติ” ทั้งนี้ “ความแตกต่างที่มีนัยสำคัญทางสถิติ”  อาจไม่ได้ “มีนัยสำคัญ” ในความหมายที่ใช้กันทั่วไป “ความแตกต่าง” ระหว่างวิธีการรักษา “ที่มีนัยสำคัญทางสถิติ” ซึ่งก็คือ […]

| 2 Comments
Book cover

การสะสางความไม่แน่นอนด้านผลการรักษา

แล้วเราควรทำอย่างไรต่อไป แพทย์ต้องสามารถใช้ข้อมูลเรองวิธีการรักษา ซึ่งเป็นหลักฐานที่ดีที่สุด ณ เวลานั้นจากการรวบรวมประสบการณ์และการทบทวนงานวิจัยที่เชื่อถือได้ทั้งหมดอย่างเป็นระบบ ถ้ายังพบว่ามีความไม่แน่นอนเรื่องวิธีการรักษา แพทย์ก็ต้องพร้อมจะหารือกับผู้ป่วย อธิบายว่าทำไมจึงเป็นเช่นนี้ และปรึกษากันเรื่องทางเลือกโดยคำนึงถึงสิ่งที่ผู้ป่วยต้องการ แม้การหารืออาจเปิดประเด็นความไม่แน่นอนที่ต้องยอมรับ และสะสางเพิ่มขึ้นอีกก็ตาม เราจะก้าวหน้าอย่างมั่นคงไปสู่การรักษาที่เหมาะสมและปลอดภัยขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อเราต่างตระหนักว่ายังมีความไม่แน่นอน ความไม่แน่นอนจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้เกิดความก้าวหน้า ไม่ใช่เพื่อให้ยอมรับ “ความพ่ายแพ้” ทุกวันนี้แนวทางสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพบางฉบับก็แสดงทัศนคติในแง่ดีต่อการสะสางความไม่แน่นอนต่างๆ แนวทางเวชปฏิบัติที่ดี (Good Medical […]

| 0 Comments
Book cover

เมื่อแพทย์เห็นไม่ตรงกัน

ในหลายๆ โรคและหลายๆ อาการ ยังไม่แน่นอนนักว่าวิธีการรักษาใดได้ผลมากน้อยเพียงใด และวิธีใดดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยรายนั้น แต่แพทย์กลับไม่ลดการมองวิธีการรักษาต่างๆ แบบสุดโต่งลงเลย ทั้งที่ความเห็นของแพทย์แต่ละรายอาจแตกต่างกัน ซึ่งทำให้วิธีการรักษาที่ใช้ในอาการนั้นๆ ต่างกันโดยสิ้นเชิง ในทศวรรษที่ 1990 เอียน ชาลเมอร์ส ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เขียน ข้อเท้าหักขณะพักผ่อนอยู่ในสหรัฐอเมริกา เขาได้รับการรักษาโดยศัลยแพทย์กระดูกและข้อ ซึ่งดามขาข้างนั้นไว้ชั่วคราวและบอกว่า หลังจากหายบวมจะมีการใส่เฝือกแข็งตั้งแต่เข่าลงมานาน 6 […]

| 2 Comments
Book cover

เฮอเซปติน (Herceptin)

ไม่ได้มีแต่บริษัทเชิงพาณิชย์ที่เชิดชูข้อดีและกลบเกลื่อนข้อเสีย ของวิธีการรักษาใหม่ ความตื่นเต้นดีใจของผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพและการประโคมของสื่อก็ส่งผลเช่นเดียวกัน ข้อเสียเหล่านี้อาจไม่ใช่แค่ผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย แต่ยังรวมถึงความยุ่งยากในการตรวจวินิจฉัยโรคด้วย ดังจะเห็นได้จากเหตุการณ์เกี่ยวกับยาโรคมะเร็งเต้านม ทราสทูซูแมบ (Trastuzumab) ซึ่งมักรู้จักกันในชื่อการค้าเฮอเซปติน (ดูเพิ่มเติมในบทที่ 3) ต้นปี ค.ศ. 2006 การเรียกร้องของกลุ่มผู้ป่วยและผู้ประกอบวิชาชีพซึ่งหนุนโดยอุตสาหกรรมยาและสื่อมวลชนทำให้ระบบบริการสุขภาพแห่ง ชาติ (National Health Service) ในสหราชอาณาจักรให้ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะแรกใช้เฮอเซปตินได้ […]

| 1 Comment

No Resources Found

Try clearing your filters or selecting different ones.