วิธีการรักษา “แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ” แปลว่าอะไร

ดาวน์โหลดในรูปแบบ pdf: วิธีการรักษา "แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ" แปลว่าอะไร

คำถามนี้ตอบยาก เพราะ “ความแตกต่างที่มีนัยสำคัญ” อาจแปลได้หลายอย่าง อย่างแรก คือ ความแตกต่างที่สำคัญต่อผู้ป่วยจริง ทว่าเมื่อผู้เขียนรายงานวิจัยกล่าวว่าวิธีการรักษา “แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ” พวกเขามักหมายถึง “ความแตกต่างทางสถิติ” ทั้งนี้ “ความแตกต่างที่มีนัยสำคัญทางสถิติ”  อาจไม่ได้ “มีนัยสำคัญ” ในความหมายที่ใช้กันทั่วไป “ความแตกต่าง” ระหว่างวิธีการรักษา “ที่มีนัยสำคัญทางสถิติ” ซึ่งก็คือ ความต่างที่แทบไม่น่าจะเกิดเพราะบังเอิญ อาจแทบไม่มี หรือไม่มีความสำคัญในทางปฏิบัติเลย

ตัวอย่างเช่น การทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบของการทดลองแบบสุ่มที่เปรียบเทียบประสบการณ์ของชายสุขภาพดีหลายหมื่นราย ซึ่งกินแอสไพรินวันละเม็ด กับอีกหลายหมื่นรายที่ไม่ได้กิน พบว่าอัตราการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันต่ำกว่าในผู้ที่กินยา ผลต่างนี้ “มีนัยสำคัญทางสถิติ” นั่นคือ ไม่น่าจะเกิดจากความบังเอิญ แต่ก็ไม่ได้แปลว่ามีความสำคัญในทางปฏิบัติเสมอไป ถ้าชายสุขภาพดีมีโอกาสเกิดกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันน้อยนิดอยู่แล้ว ก็อาจไม่สมควรกินยาเพื่อให้โอกาสต่ำลงอีก โดยเฉพาะเมื่อแอสไพรินมีผลข้างเคียง เช่น เลือดออก ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตในบางกรณี [1] เราคาดการณ์โดยอ้างอิงหลักฐานจากการทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบได้ว่า ถ้าชาย 1,000 ราย กินแอสไพรินวันละ 1 เม็ด เป็นเวลา 10 ปี จะมี 5 รายที่รอดพ้นจากการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันในช่วงดังกล่าว แต่จะมี 3 รายที่มีเลือดออกรุนแรง

ถัดไปการได้จำนวนที่มากพอในการตรวจสอบวิธีการรักษาอย่างเที่ยงธรรม