การติดเชื้อไวรัสโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (Human Immunodeficiency Virus หรือ HIV) ในเด็ก

ดาวน์โหลดในรูปแบบ pdf: การติดเชื้อไวรัสโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (Human Immunodeficiency Virus หรือ HIV) ในเด็ก

ผลจากงานวิจัยที่มีคุณภาพยังเป็นประโยชน์ต่อเด็กที่ติดเชื้อ HIV ซึ่งก่อโรคเอดส์ (AIDS) ตัวเลขจากโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ (the joint United Nations Programme on HIV / AIDS หรือ UNAIDS) เมื่อปลายปีค.ศ. 2009 ชี้ว่ามีเด็กที่มีเชื้อ HIV และยังไม่เสียชีวิตราว 2.5 ล้านรายทั่วโลก 2.3  ล้านรายอยู่ในแอฟริกาตอนใต้ของทะเลทรายซาฮารา  ในแต่ละชั่วโมงมีเด็กเสียชีวิตจากเอดส์ราว 30 ราย [6] การติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น โรคปอดอักเสบ (pneumonia) ซึ่งสัมพันธ์กับการที่ภูมิคุ้มกันของเด็กอ่อนแอ เป็นสาเหตุการเสียชีวิตที่พบบ่อย ยาโคไตรม็อกซาโซล (co-trimoxazole) คือยาปฏิชีวนะราคาย่อมเยาที่ใช้กันแพร่หลายมาหลายปี เพื่อรักษาโรคติดเชื้อในช่องอกที่ไม่เกี่ยวกับโรคเอดส์ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ การศึกษาพบว่ายาดังกล่าวลด อาการแทรกซ้อนอื่นๆ ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในผู้ใหญ่ที่มีเชื้อ HIV อีกด้วย [7]

เมื่อหลักฐานเบื้องต้นแสดงว่ายานี้อาจลดการติดเชื้อแบคทีเรียในเด็กที่มีเชื้อ HIV ได้ นักวิจัยชาวสหราชอาณาจักรกลุ่มหนึ่งกับพันธมิตรในแซมเบียจึงร่วมมือกันในการศึกษาขนาดใหญ่เพื่อประเมินผลจากยาโคไตรม็อกซาโซล ในฐานะที่อาจเป็นยาที่ใช้ป้องกันโรคติดเชื้อได้ การทดลองนี้เริ่มในปี ค.ศ. 2001 กินเวลา 2 ปี โดยเปรียบเทียบยาปฏิชีวนะชนิดนี้กับยาหลอกในเด็กกว่า 500 ราย ผลปรากฏชัดเจนเร็วกว่าที่คาด เนื่องจากพบว่ายาดังกล่าวลดการเสียชีวิตเนื่องจากโรคเอดส์ลงถึงกว่าร้อยละ 43 (มีผู้เสียชีวิต 74 รายในกลุ่มโคไตรม็อกซาโซล เทียบกับ 112 รายในกลุ่มยาหลอก) ทั้งยังลดการต้องนอนโรงพยาบาล ถึงตรงนี้ คณะกรรมการที่ไม่ขึ้นกับหน่วยงานใดซึ่งเป็นผู้ตรวจสอบผลก็แนะนำให้หยุดการทดลอง

ผลฉับพลันประการหนึ่งคือ เด็กทุกคนในการทดลองนั้นได้รับโคไตรม็อกซาโซลในโครงการของรัฐบาลแซมเบีย ผลในวงกว้างยิ่งขึ้นคือ องค์การอนามัยโลกและกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือยูนิเซฟ (UNICEF) ปรับเปลี่ยนคำแนะนำเรื่องยาในเด็กที่ติดเชื้อ HIV ทันที [8, 9]

องค์กรเหล่านี้ยังคงแนะนำให้ใช้โคไตรม็อกซาโซล เนื่องจากเป็นวิธีการรักษาที่ปลอดภัย ราคาย่อมเยา และช่วยชีวิตเด็กกลุ่มนี้ได้ [10]

ถัดไป: งานวิจัยที่ไม่ดี